วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

สเก็ตบอร์ด


สอนเทคนิคการเล่นสเก็ตบอร์ด
รวมรูปภาพของนักสเก็ตบอร์ด
แนะนำเพลงในแนว

สเกตบอร์ด คืออุปกรณ์ 4 ล้อ ที่มีแผ่นกระดานให้ยืนได้และมีลูกล้อที่แข็งแรงรองรับอยู่ สเกตบอร์ดเป็นอุปกรณ์ลื่นไหล สำหรับการเล่นกีฬาสเกตบอร์ด เคลื่อนที่ได้โดยการผลักด้วยเท้าขณะที่เท้าอีกข้างควบคุมบอร์ดไว้ หรือการดีดขึ้นบนราว หรือทางครึ่งวงกลม หรือสามารถนั่งบนสเกตบอร์ดได้ขณะเคลื่อนที่บนทางลาดให้แรงโน้มถ่วงขับเคลื่อนบอร์ดไป

ที่มาของสเกตบอร์ดไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้คิดค้น แต่น่าจะเกิดในช่วงทศวรรษที่ 40-50 โดยสันนิษฐานว่าเป็นการประยุกต์จากรถ soapbox และอีกข้อสันนิษฐานนึงคิดว่าประยุกต์มาจากโรลเลอร์สเกต สเกตบอร์ดพัฒนาจนมีการผลิตโมเดลขึ้นในทศวรรษที่ 60 โดยสเกตบอร์ดในสมัยก่อนจะมีรูปร่างแบบเซิร์ฟบอร์ด ไม่ค่อยมีส่วนเว้ามากและทำจากไม้ทึบ พลาสติก หรือ แม้แต่โลหะ ส่วนล้อมักทำจากส่วนประกอบจากดิน หรือ เหล็ก ในปี 1973 ได้มีการใช้วงล้อยูรีเทนในการกีฬา ซึ่งทำให้มีความปลอดภัยและคล่องตัวกว่า สเกตบอร์ดมีขนาดกว้างมากขึ้น จาก ระยะ 16 ซม.เป็นกว่า 23 ซม.เพื่อให้ความมั่นคงที่ดีกว่า ในการเล่น Vert

ส่วนประกอบของสเกตบอร์ดประกอบด้วย Deck,Truck,ล้อ,ball bearings และอื่น ๆ

ในช่วงทศวรรษที่ 80 กีฬาสเกตบอร์ดได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายการแข่งขันสเกตบอร์ดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เวิร์ต (Vert) เป็นการเล่นตามแลมป์ใหญ่ ๆ และ อีกประเภทคือแบบผาดโผน จะเป็นแนวแบบสตรีท คือแสดงโชว์ท่าทางกระโดดข้ามและผ่านสิ่งกีดขวาง ในขณะเดียวกัน ยังต้องแสดงท่าทางต่างๆ เช่น ท่า five-o-grinds , ท่า 360's ,ท่า fifty-fifty และอีกหลายให้เข้าตากรรมการชม



--ประวัติ
เริ่มจากแถบแคลิฟอร์เนีย นักเล่นเซิร์ฟได้ลองใช้ถนนที่เป็นลอน แทนคลื่นในทะเลในยามไม่มีคลื่น ตั้งแต่ 1950 กีฬาชนิดนี้เป็นกีฬาแท้ๆ ที่นิยมกันมากของชาวอเมริกา แต่เมื่ออินไลน์สเกตและ BMX เป็นที่นิยมในช่วงสั้น ๆ ช่วงปลายทศวรรษที่ 50 ดนตรีและภาพยนตร์เกี่ยวกับสเกตบอร์ดเป็นตัวปลุกกระแสการออกแบบเครื่องเล่นให้เหมือนเ
ซิร์ฟบอร์ดและมีการผลิตเพื่อการค้าครั้งแรกโดยโรลเลอร์ เดอร์บี้ จำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าในปี 1959

ว่ากันว่ากีฬาที่เกิดจากอุบัติเหตุเมื่อคันบังคับของรถสกูตเตอร์หักและเหลือแค่เพียง
พื้นติดล้อเท่านั้น ในช่วง 10 ปี ของ ค.ศ. 1960 การเล่นสเกตบอร์ดถูกห้ามเล่นในหลายๆแห่ง จนกลายเป็นกีฬาใต้ดิน

ปี 1960 ได้มีการตีพิมพ์นิตยสารเกี่ยวกับการเล่นสเก็ตฉบับแรกขึ้น รวมทั้งมีการผลิตสเก็ตบอร์ดขึ้นมา ต่อมาในปี 1963 ผู้ผลิตสเกตบอร์ดมากาฮาได้จัดตั้งทีมสเก็ตบอร์ดเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของตน และได้จัดการแข่งขันสเกตบอร์ดอย่างเป็นทางการครั้งแรกได้รับความอุปถัมภ์จากมากาฮาใน
แคลิฟอร์เนีย

ในปี 1973 ได้มีการใช้วงล้อยูรีเทนในการกีฬา ซึ่งทำให้มีความปลอดภัยและคล่องตัวกว่า สเก็ตบอร์ดมีขนาดกว้างมากขึ้น จาก ระยะ 16 ซม.เป็นกว่า 23 ซม.เพื่อให้ความมั่นคงที่ดีกว่า ในการเล่น Vert

การเล่นสเกตบอร์ดสมัยใหม่เกิดขึ้นโดยมีการเล่นแบบต่างๆ เช่น Slalom,ดาวน์ฮิลล์,ฟรีสไตล์ วัฒนธรรมการเล่นสเก็ตบอร์ดเริ่มรวมตัวเข้ากับพวกพังค์ และดนตรีแบบใหม่ อาร์ตเวิร์คและกราฟิกเริ่มมีบทบาทมากในวัฒนธรรมการเล่นสเกตบอร์ด

จนช่วงปลายปี 1970 ลานสเกตบางแห่งหายไปอันเนื่องจากธุรกิจตกต่ำ การเล่นสเก็ตบอร์ดก็เริ่มตกต่ำอีกเป็นครั้งที่สอง จนการเล่นสเกตบอร์ดก็หายจากวงการ การขี่จักรยานBMX เข้ามาเป็นที่นิยมและนักสเกตส่วนมากก็หยุดเล่นสเก็ตลานสเก็ตก็สูญหายไปแต่มีการสร้าง
ฮาฟว์ไปป์ และแรมป์ยังคงพัฒนาต่อไปอย่างเงียบๆ ด้วยนักขี่จักรยาน BMX

มีการฟื้นฟูการเล่นสเกตบอร์ดโดยใช้แรมป์ที่เป็นไม้อัด ในปี 1980 และการเล่นตามท้องถนนจึงก่อให้เกิดความพยายามในการเล่นด้วยตนเอง นักสเกตเริ่มที่จะสร้างแรมป์สำหรับสเกตที่ทำด้วยไม้เอง บริษัทที่เป็นของนักสเกตเริ่มสร้างอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีมาตรฐานกว่าเดิม เพื่อใช้เล่นท่าให้ได้ดีขึ้น มีนักสเกตเป็นที่รู้จักอย่างโทนี ฮอว์คและสตีฟ แคบเบลเลอโร มีการจัดการแข่งขันโดย The National Skateboarding Association การเล่นสเกตบอร์ด ยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรมระหว่างประเทศเริ่มจากดนตรีพังก์ร็อก

สเกตบอร์ด แบบ New School กำเนิดขึ้นโดยเน้นไปที่การเล่นท่าพื้นฐาน ออลลี่ และเน้นเล่นท่าทริคต่างๆ ต่อมาการเล่นโรลเลอร์เบรดก็เป็นที่นิยม ต่อมาในปี 1995 ESPN ได้บรรจุกีฬาประเภทนี้ในงานแข่ง Extreme Games (ปัจจุบันคือ X Games) Skateboard เป็นหนึ่งในกีฬาหลักที่ต้องจัดในงาน X Games ประจำปีทุกครั้ง

ปัจจุบัน มีอุตสาหกรรมเกี่ยวกับกีฬาสเกตบอร์ดมากมายเช่น นิตยาสาร สำนักงานออกแบบสนาม ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับสเกต เป็นต้น อุปกรณ์ต่างๆ มีขนาดต่างๆ ก็มีขนาดเพิ่ม-ลดต่างออกไป







--ท่าในสเกตบอร์ด

ท่า Kickflipด้วยการพัฒนาของลานสเกตและทางลาด ตัวสเกตบอร์ดก็เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลง ในช่วงแรกท่าในการเล่นจะมีลักษณะเป็นสองมิติอย่างการแล่นด้วยสองล้อ การดีดขึ้นในช่วงสองล้อหลัง เรียกว่า "พิว็อต" การกระโดดข้ามราวและลงมาที่บอร์ดอีกครั้ง การกระโดดในระยะยาว (เช่นถังน้ำ) หรือสลาลม

ในปี 1976 การเล่นสเกตบอร์ดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงโดยมีการคิดค้น "ออลลี่" โดย อลัน ออลลี่ เกลแฟนด์ ซึ่งเป็นท่าที่ได้รับความนิยมในฟลอริดาในช่วงปี 1978 หลังจากที่เขาไปแคลิฟอร์เนียก่อนหน้านั้น ท่าของเกลแฟนด์เริ่มเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเล่นสเกตในแถบเวสต์โคสต์ของอเมริกา และมีสื่อมวลชนได้กระจาย เผยแพร่ไปอีกจนได้รับความนิยมทั่วโลก

ออลลี่ ได้ถูกดัดแปลงท่าในการลงพื้นโดย ร็อดนีย์ มัลเลน ในปี 1982 โดยมัลเลนได้คิดท่า "คิกฟลิป" โดยในช่วงนั้นมีชื่อว่า "แมจิกฟลิป" และจากการคิดค้นท่านี้เองทำให้นักสเกตบอร์ดสามารถเล่นสเกตได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อื
่นนอกเหนือจากตัวสเกตบอร์ดอย่างเดียว และได้พัฒนาสู่ท่าการเล่นอื่นตามมา




ท่า ollie คือ ท่าพื้นฐานที่สุดในจำนวนท่าทั้งหมดของสเก็ตบอร์ด โดยไม่รวมกับ ท่า oldschool มันควรจะเป็นหนึ่งในท่าแรกที่คุณต้อง ฝึกหลังจากที่คุณได้ทำความคุ้นเคยกับการทรงตัวบนแผ่นสเก็ตบอร์ด ผู้คิดค้นท่า ollie คือ Alan Gefland เขาได้คิดค้นมันในปี 1977 (2520) ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 13-14 ขวบเอง
.
1.การเล่นท่าOLLIE
ท่าOLLIEคือท่าพื้นฐานที่สุดสำหรับท่าสเก็ตบอร์ด โดยท่านี้จะเป็นการให้แผ่นบอร์ดลอยติดกับเท้าเรา
วิธีเล่น
1.ก่อนอื่นไถแผ่นให้มีความเร็วพอเหมาะ(อันนี้หรือใครจะฝึกอยู่กับที่ก็ได้)
2.วางเท้าหลังไว้ส่วนtail(ตรงที่มันโค้งๆด้านหลัง)และวางเท้าหน้าไว้ตรงกลางบอร์ด
3.ย่อเข้าทั้ง2และกดเท้าหลังคุณให้แรงที่สุดโดยให้ส่วนtailกระทบพื้นพร้อมกับรูดเท้าไปหน้าและกระโดดให้สูง
4.อย่าใช้เท้าหลังของคุณกดแผ่นลงให้ใช้เท้าหลังนำแผ่นขึ้นไปด้วย
5.รักษาระดับไหล่และเข่าให้ขนานกับทิศทางที่จะไปซึ่งจะง่ายต่อการลง
6.ให้ล้อทั้ง4ลงพร้อมกันและเมื่อลงพื้นให้คุณย่อเข่าลงด้วย


ท่า kickflip ถือว่าเป็นหนึ่งในจำนวนท่าพื้นฐานของท่าประเภทฟลิป(ท่าปั่นแผ่น) มันอาจจะเป็นท่าที่ควรฝึกเป็นท่าแรกในบรรดาท่าฟลิปทั้งหมด(ยกเว้นท่า heelflip) เพราะไม่แน่ใจว่าควรฝึกอันไหนก่อน หลังดี เพราะมันต่างกันไม่มาก แต่ที่สำคัญคือ คุณจะต้องแน่ใจว่าเล่นท่าออลลีได้ อย่างดีแล้ว


ท่า popshovit เป็น ท่าพื้นฐาน และเป็นท่าที่ต้องการฝึก การวางเท้าที่ถูกต้อง และการใช้กำลังเท้าหลังในการกด เพื่อที่จะทำให้แผ่นหมุนได้ครบรอบ ซึ่งก่อนคุณจะฝึก ท่านี้คุณต้องรู้การออลลี่มาก่อนแล้ว

2 ความคิดเห็น:

  1. อืม!!!ขอบคุณมากครับ แต่!!!อยากจะรู้อีกว่า คนที่คิดท่า ollie เขามีไอเดียยังไงหรือในขณะนั้นเกิดการผิดพลาดทางการเล่นยังไงที่ทำให้บอร์ดลอยได้ และกำเนิดท่า ollie ขึ้นมา ซึ่งมันทำให้บอร์ดลอยติดขาขึ้นมา
    เว็บนี้มีประโยชน์อย่างมาก ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  2. กำลังจะซื้อ และ ฝึก เพราะมันเท่มากและเราก้อเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่ชอบการนั่งแชท :p

    ตอบลบ